ซาลาห์เวิลด์คลาส หงส์แดง สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับเพื่อการทำศึกสงคราม “แดงเดือด”
ซาลาห์เวิลด์คลาส บุกกระหน่ำ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยับเยิน 5-0 ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เดือนตุลาคมก่อนหน้าที่ผ่านมา สำหรับผู้เล่นที่จำเป็นต้องกล่าวว่าสะดุดตาที่สุดในแมตช์นี้คงจะหนีไม่พ้น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เนื่องจากว่าทำแฮตทริกได้ด้วย รวมทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์อีกทั้งในระดับชมรมกับ “ลิเวอร์พูล” แล้วก็ระดับกาฬทวีปด้วย
ย้อนไปมองฝั่งเจ้าของบ้านจำเป็นต้องบอกเลยว่าแพ้ยับเยินที่สุดให้กับคู่แค้นชั่วนิจนิรันดร์ใน “โรงละครแห่งความฝัน” แล้วก็ในช่วงเวลานี้ดูเหมือนกับว่าอนาคตของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา คงคลอนแคลนอย่างยิ่งจริงๆ ลองคิดดูตามใจขนาด เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน ที่เข้ามานั่งดูเกมในสนามยังสีหน้าท่าทางบูดบึ้ง แล้วงานนี้ “น้าลูกอม” จะเหลืออะไร
เกม “แดงเดือด” เมื่อวันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ฟอร์มของ “บังโม” ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นนักฟุตบอลคนแรกของชมรมซึ่งสามารถบุกมายิงประตูในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นอกเหนือจากนั้นสามประตูของเจ้าตัวยังส่งผลให้เขาแปลงเป็นตำนานบทใหม่ของหน้าแข้งจากรอยแดงทวีป
ยังไม่หมดเท่านั้น ซาลาห์ เป็นนักฟุตบอลคนแรกที่บุกมาซัด 3 ประตูที่บ้านของ “ปีศาจแดง” ในรอบ 18 ปี โดยคนแรก็เป็น โรนัลโด้ ตำนานบราซิลที่นำ เรอัล มาดริด บุกสอยแมนฯ ยูฯ ในม.ย. 2003 ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก แรมส์เดลโคตรหนึบ
ในเวลานี้ ซาลาห์ ซัดไปแล้ว 107 ประตูในลีกทำให้ในช่วงเวลานี้เขาทำประตูนักฟุตบอลจากทวีปแอฟริกาที่ยิงในพรีเมียร์ลีกสูงที่สุด แซงหน้า ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ตำนานกลุ่มชาติไอวอรี่ โคสต์ รวมทั้งเชลซี (104 ประตู) ไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
นอกเหนือจากนั้น แนวรุกชาวอียิปต์ ตะบันประตูในลีกไปแล้ว 10 ลูกต่อเนื่องกัน ทำให้เขาสอยประตูในลีกไปแล้ว 15 ประตูจาก 12 เกมในทุกรายการ และก็ดูราวกับว่าฟอร์มของเขากำลังเร่าร้อนเกินจะหยุดได้แล้ว ด้วยเหตุนั้นฟอร์มของ ซาลาห์
ขณะนี้คงจะทำให้กระดานบริหารทราบดีแล้วว่าพวกเขาควรมอบคำสัญญาฉบับใหม่ให้กับ “บังโม” แม้ว่าจะจำต้องยอมจ่ายค่าจ้างทะลุเพดานสมาพันธ์ ก็จำต้องยอมแล้วจริงๆ
ซาลาห์เวิลด์คลาส แมนยูแพ้ “แดงเดือด” ในบ้านเหลวสุด
ซาลาห์เวิลด์คลาส ก่อนเกมนี้ไม่มีผู้ใดมั่นใจว่า แมนยูไนเต็ดจำเป็นต้องปราชัยด้วยสกอร์ที่เลอะเทอะขนาดนี้ โดยยิ่งไปกว่านั้นการเล่นใน “โรงละครแห่งความฝัน” เพราะเหตุว่าผลงานของ “ผีแดง” ขณะที่ปะทะกับศัตรูชั่วกัลปวสานชอบเล่นได้ดีเสมอ
ซาลาห์เวิลด์คลาส ในความเป็นจริงแล้ว แมนฯ ยูฯ ทำเป็นดีในตอนต้นเกมและก็ได้โอกาสจะเปิดแผล “ลิเวอร์พูล” ก่อนจากจังหวะของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แม้กระนั้นเจ้าตัวดันตะบันออกไปไกล จะว่าไปแล้วนี่นับว่าเป็นจุดแปลงจริงๆเนื่องจากว่าถ้าลูกนี้เข้าประตู
เกมบางทีก็อาจจะกลับมาอยู่ที่ฝั่งเจ้าของบ้าน เมื่อมิได้ประตูในที่สุดแปลงเป็น “เดอะ เร้ดส์” ซึ่งสามารถกลับมาทำสมาธิแล้วก็จัดแจงครอบครองเกมได้ตลอด ประกอบกับเกมรับ “ผีแดง” เล่นบกพร่องนำมาซึ่งการทำให้จำเป็นต้องโดนอบรมสั่งสอนตั้งแต่ครึ่งแรกทำใหสกอร์โดนนำขาด 4-0 ซึ่งเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์สมาพันธ์ที่ตามหลังคู่ปรปักษ์ในตอน 45 นาทีแรกขนาดนี้
ยังไม่หมดเท่านั้นตอนช่วงหลังยังโดนเจาะอีกลูก แถม ปอล ป็อกบา ยังโดนไล่ออกทั้งที่พึ่งถูกสลับตัวลงมาไม่ถึง 15 นาที ข้อสรุปในที่สุด แมนฯยูฯ เสียหาย 5-0 ให้กับคู่ปรับชั่วกับชั่วกัลป์ ความปราชัยยับเยินต่อ หงส์แดง เยอะที่สุดเกิดขึ้นเมื่อตุลาคม 1895 โดย “ลิเวอร์พูล” ถลุงพวกเขา 7-1 ที่สนามแอนฟิลด์ แต่ว่าสกอร์ในแมตช์นี้เป็นการแพ้มากที่สุดของสมาคมที่มีต่อ “เดอะ เร้ดส์” กับการเล่นในบ้านตนเอง มวย วันนี้
ผลงานเด่น นาบี เกอิต้า โดนวิภาควิจารณ์อย่างมากในเกมที่ หงส์แดง บุกชนะ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด เพราะเหตุว่าถึงนักฟุตบอลจะซัดประตูสุดสวยได้ก็ตาม แม้กระนั้นเขามีส่วนต่อความบกพร่องจนกระทั่งทำให้กลุ่มเสีย 2 ประตู ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก สำหรับแมตช์ “แดงเดือด” มั่นใจว่า ฟาบินโญ่ คงจะได้ลงปฏิบัติภารกิจร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ เจมส์ มิลเนอร์
แต่ว่าดันกำเนิดดวงแตกได้รับบาดเจ็บนำมาซึ่งการทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องเลือกใช้งาน เกอิต้า ซึ่งงานนี้บอกเลยว่าสาวก “เดอะ ค็อป” เสียวสันหลงแน่ๆ แม้กระนั้น เกอิต้า กลับเล่นได้อย่างสะดุดตาเกินความคาดหวังอีกทั้งซัดประตูหนังสือเบิกร่องให้กลุ่มขึ้นนำและก็ยังมีส่วนช่วยให้กลุ่มได้เพิ่มเติมอีกสองประตู
งานนี้บอกเลยว่า 45 นาทีแรก จอมบุกชาวกีนี เล่นได้เหนือชั้นที่สุดนับจากใส่ชุด “ลิเวอร์พูล” ผลงานของ เกอิต้า พอดีวันดีคืนแม้กระนั้นโชคร้ายที่การเข้าบอลแบบเปิดเผยของ ป็อกบา ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก แล้วก็ในเวลานี้มั่นใจว่า คล็อปป์ อาจจะจำเป็นต้องลุ้นว่านักเตะจะเจ็บหนักเยอะแค่ไหน
ฤดูที่แล้วพวกเขามีปัญหาผู้เล่นเกมยอมรับได้รับเจ็บยกแผง สำหรับฤดูกาลนี้ “ลิเวอร์พูล” จำเป็นต้องมาพบกรรมหนักเหตุเพราะดินแดนกึ่งกลางของกลุ่มมีนักเตะเจ็บมากมาย สงสัย คล็อปป์ จะต้องไปสะเดาะเคราะห์กันบ้างแล้ว
แนวรับแมนยูสุดเปื่อยยุ่ย
ซาลาห์เวิลด์คลาส หนึ่งในปัญหาที่แมนยูไนเต็ด ยังแก้ไม่หายก็คือเกมรับที่ทรุดโทรมอย่างมาก อันที่จริงแล้วหัวข้อนี้พวกเขาเป็นมานานแล้ว แม้กระนั้นสามารถรอดชีวิตได้เนื่องมาจากมีเกมรุกที่ดุเดือด รวมทั้งช่วยกลับเหตุการณ์จนกระทั่งทำให้กลุ่มคว้าแชมป์ อย่างในเกมกับ บียาร์เรอัล แล้วก็ อตาลันตา เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าแนวรับของกลุ่มเป็นจุดบอดอย่างแจ่มแจ้ง
ซาลาห์เวิลด์คลาส ไม่ว่าจะเป็น แฮร์รี่ แม็กไกวร์ หรือ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ไม่อาจจะพึ่งได้เลย แม้กระนั้นเนื่องจากว่ามีเกมรุกจัดจ้าทำให้กลุ่มสามารถกลบความเปื่อยของกองข้างหลังได้หมด ที่จริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันคอยเพียงแค่เวลาโป๊ะแตกเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นที่โชคดีก็คือดันมาบรรลัยในเกม “แดงเดือด”
งานนี้บอกเลยเกมรับของกลุ่มโดยยิ่งไปกว่านั้น แม็กไกวร์ กับ ลุค ชอว์ จำเป็นต้องรับผิดชอบแบบเต็มๆยิ่งในรายของตัวบุกปีกซ้ายกลุ่มชาติอังกฤษ มีส่วนอย่างยิ่งสำหรับในการเสียประตูของกลุ่ม ผลงานของ ชอว์ ในแมตช์นี้บอกเลยว่าต่ำลงมากยิ่งกว่ามาตรฐานสุดๆและก็จำเป็นต้องมาตามติด ซาลาห์ ที่ฟอร์มฮอตเกินระงับใจ งานนี้ก็เลยเลอะเทอะหมดท่า
ในขณะที่ กัปตันกลุ่ม “ผีแดง” ยังไม่อาจจะโชว์ฟอร์มได้สมกับคำว่า “ปราการหลังแพงสุดในโลก” ซะครั้ง สำหรับ อารอน วาน-บิสซาก้า กับ ลินเดอเลิฟ ก็มิได้เล่นสะดุดตาอะไรมากเท่าไรนัก ด้วยเหตุว่ารายแรกก็ไม่สามารถที่จะต่อกรกับ ดีโอโก้ โชต้า ที่เล่นได้วูบวามรวมทั้งพาทัวร์ตลอด ส่วนรายข้างหลังอีกทั้งชักช้าแล้วก็เปิดเผย นั่นก็เลยไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจำเป็นจะต้องไปนั่งสำรองถ้าหาก ราฟาแอล วาราน ฟิตสมบูรณ์ อนาคตโซลชาอยู่บนด้าย
ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมามีกระแสข่าวจากหลายสำนักที่บอกว่ากระดานบริหาร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังคงเชื่อใจให้ โซลชา ปฏิบัติหน้าที่ก่อร่างสร้างกลุ่ม “ผีแดง” ถัดไป เนื่องจากเชื่อถือว่านี่เป็น “ผู้ที่ใช่” ที่จะนำสมาพันธ์กลับสู่ความโหฬาร ยิ่งในแมตช์แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่นำ แมนยูไนเต็ดโชว์สปิริตนักสู้กลับแดนนรกกลับมาชนะ อตาลันตา อย่างยอดเยี่ยม
ทำให้สาวก “เร้ด อาร์มี่” มั่นคงแน่ใจว่า “น้าลูกอม” สามารถเรียกจิตวิญญาณปีศาจแดง กลับมาสู่กลุ่มเหมือนกับยุคที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน จับบังเหียน สำหรับเดี๋ยวนี้มั่นใจว่าทั้งหมดทุกอย่างอาจไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว !! สกอร์ที่แพ้สกปรกต่อหน้าต่อตาแฟนบอลตนเองใน “โรงแสดงละครที่ความฝัน” กับสมาคมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่พิพาทชั่วกับชั่วกัลป์ มันทำให้เหตุการณ์ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแปรไปโดยทันที
การแพ้ 5-0 แถมรูปเกมก็ด้อยกว่าแบบบอลคนละระดับ ซึ่งจะอ้างถึงว่าเหลือผู้เล่น 10 คนก็มิได้ ด้วยเหตุว่าผลงานของ หงส์แดง ข่มเจ้าของบ้านแบบมิดด้ามก่อนที่จะ ป็อกบา จะโดนไล่ออกด้วย นั่นก็เลยเป็นเหตุผลสำคัญที่คงจะถึงเวลาที่ โซลชา จำเป็นที่จะต้องโดนตัดสินแล้ว ความเป็นวีรบุรุษของแมนยูไนเต็ด, นักฟุตบอลที่ขึ้นชื่อว่าจงรักภักดีกับกลุ่ม, พร้อมเป็นตัวสำรองเพื่อสมาคม รวมทั้งผู้ครอบครองสมญานาม “ซูเปอร์ซับตลอดไป” ยังคงอยู่ในใจ “เด็กผี” ทุกคน แม้กระนั้นในสถานะผู้จัดการทีมอาจถึงเวลาที่จำเป็นต้องจบหน้าที่ซะที