สเปนทุบหนัก ทิกิทากะของสเปนถูกโจมตีอีกครั้ง หลังจากแพ้ฟุตบอลโลก

สเปนทุบหนัก จ่ายบอลครั้งแล้วครั้งเล่า สเปนพยายามหาช่องเปิดผ่านแนวรับของโมร็อกโก

สเปนทุบหนัก ผู้เล่นโมร็อกโกลดการป้องกันลง และเฝ้าดูอย่างอดทน ขณะที่สเปนส่งบอลผ่านกองกลางระหว่างรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลก จากผู้เล่นสเปนคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง แต่ชาวโมร็อกโกยังคงมุ่งมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง อดทนรอโดยมีผู้เล่น 11 คนอยู่หลังบอลหน้าประตู สไตล์การครองบอลแบบ “ติกิ-ตากา” แบบดั้งเดิมทำให้สเปนสามารถเก็บบอลได้ในระหว่างการแข่งขันส่วนใหญ่ในวันอังคาร

แต่ไม่สามารถได้ประตูที่ต้องการเพื่อรักษาแชมป์ฟุตบอลโลกให้คงอยู่ และทีมแพ้ 3-0ในการดวลจุดโทษ การยิงประตูหลังจากเสมอกัน 0-0 ตามระเบียบ และช่วงต่อเวลาพิเศษเพื่อยุติแคมเปญฟุตบอลโลก นับเป็นครั้งที่สามที่สเปนไม่สามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกได้หลังจากคว้าแชมป์ในปี 2010 เมื่อชาบี และอันเดรส อิเนียสต้าเป็นผู้นำสไตล์การครองบอลที่ทำให้โลกฟุตบอลประหลาดใจ

เห็นได้ชัดว่า ทิกิทากะของสเปนไม่ได้สร้างผลลัพธ์อย่างที่เคยทำ ไม่ใช่ในระดับนานาชาติหรือระดับสโมสรกับบาร์เซโลนา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของทั้งหมด บาร์เซโลนาไม่ชนะแชมเปียนส์ลีกมาตั้งแต่ปี 2558 และตกรอบแบ่งกลุ่มของการแข่งขันระดับสโมสรชั้นนำของยุโรปในช่วงสองฤดูกาลหลังสุดหลังจากที่ลิโอเนล เมสซีย้ายออกไป และเซ็นสัญญากับปารีส แซงต์-แชร์กแมง https://crescentpointegolf.com

ความล้มเหลวเมื่อเร็วๆ นี้ทำให้บางคนตั้งคำถามว่าถึงเวลาแล้วหรือยัง

ต้องยกเครื่องเชิงปรัชญาของฟุตบอลสเปน หรือว่ามันเป็นแค่เรื่องของการปรับสไตล์การเล่นให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ หรือการหาผู้เล่นที่เหมาะสมเพื่อให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เป็นเวลานานแล้วที่สเปนเสียชาบี และอิเนียสต้า ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลักที่ทำให้ “ติกิ-ตากา” เติบโต และยังไม่มีกองหน้าระดับท็อปเลยนับตั้งแต่เฟร์นานโด ตอร์เรส และดาบิด บียา

ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนการครองบอลให้เป็น เป้าหมายเมื่อ ลาโรจาคว้าแชมป์ยุโรปติดต่อกัน และฟุตบอลโลกเมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว ปีนี้ สเปนมีกองหน้าที่แท้จริงเพียงคนเดียวในทีมคือ อัลวาโร โมราตา ซึ่งยังห่างไกลจากการเป็นตัวจบสกอร์เหมือน ตอร์เรส และวิลล่า ดูเหมือนว่าสเปนกำลังจะทำให้ ทิกิทากะกลับมาทำงานในกาตาร์อีกครั้ง

หลังจากที่เจ้าหนู เปดรี และกาวี นำทีมเปิดบ้านเอาชนะคอสตาริกา 7-0 เมื่อ ลาโรจาทำสถิติผ่านบอลสำเร็จ 1,003 ครั้งสำหรับ 90- เกมนาที และจบด้วยการครองบอล 75% โดยคอสตาริกาพยายาม 17 ครั้งต่อศูนย์ แต่ลา โรฆาไม่สามารถชนะได้อีกหลังจากนั้น และยิงได้อีกเพียงสองประตูในสามนัดถัดมา ทีมออกจากทัวร์นาเมนต์โดยจ่ายบอลสำเร็จมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 847 ครั้งต่อเกม

ใช้เวลาไม่นานเสียงวิจารณ์ก็เริ่มหลั่งไหลกลับบ้าน “ครองบอลเยอะแต่ยิงไม่พอ” เอเอส รายงานในหน้าแรก “สเปนเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่สามารถได้ประตูเพิ่ม” หนังสือพิมพ์ระบุ

ฝ่ายตรงข้ามได้ค้นพบวิธีที่จะทำให้ ทิกิทากะไม่ทำงานอย่างชัดเจน

“เรารู้ว่าเราจะครองบอลได้ไม่มาก และเราก็ไม่กลัวเรื่องนั้น” วาลิด เรกรากุย โค้ชชาวโมร็อกโกกล่าวหลังพาทีมชนะสเปน “ผมดู 20 เกมหลังสุด และโดยทั่วไปแล้ว สเปนครองบอล70% ในเกมเหล่านั้น ดังนั้นผมจึงยอมรับ” สเปนครองบอลได้ 68% และผ่านบอลสำเร็จ 967 ครั้งเมื่อวันอังคาร แต่พยายามเข้าเป้าเพียงครั้งเดียว น้อยกว่าโมร็อกโกถึง 2 ครั้งด้วยกลยุทธ์ที่อาศัยการโต้กลับเพียงอย่างเดียว

“ฉันรู้ว่ามันจะยาก” เรกรากุยกล่าว “เราจะต้องจัดระบบให้ดีมาก แนวรับ กองกลาง และตัวรุกของเราทำงานหนักมากเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่มีมุมรับการจ่ายบอล” กลยุทธ์นี้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ครั้งสุดท้ายที่สเปนพยายามหลีกหนีจาก ทิกิทากะคือกับโค้ช จูเลน โลเปเตกีก่อนฟุตบอลโลก 2018 สเปนยังคงพยายามควบคุมการครองบอล แต่มันตรงกว่าเมื่อโจมตี

ทีมเดินทางไปรัสเซียด้วยสถิติไร้พ่ายที่น่าประทับใจ แต่โลเปเตกีถูกไล่ออกเพียงไม่กี่วันก่อนการเปิดตัวของทีม หลังจากรับงานกับเรอัล มาดริดโดยไม่ได้บอกเจ้าหน้าที่สหพันธ์ฟุตบอลสเปน สเปนตกรอบด้วยการดวลจุดโทษกับเจ้าภาพรัสเซียในรอบ 16ทีมสุดท้าย ตั้งแต่ปี 2010 สเปนเก็บชัยชนะได้เพียง 3 นัดจาก 11 นัดหลังสุดในฟุตบอลโลก และการตกรอบในกาตาร์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ทำให้สหพันธ์ต้องเปลี่ยนโค้ชหลุยส์ เอ็นริเก้เป็นหลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต โค้ชอายุต่ำกว่า 21 ปีของสเปน หลุยส์ เอ็นริเกกล่าวว่าผู้เล่นของเขาดำเนินการตาม “แนวคิดของฟุตบอลสู่ความสมบูรณ์แบบ” แม้ว่าจะถูกคัดออก และด้วยความรับผิดชอบของเดอ ลา ฟวนเต การยกเครื่องฟุตบอลสเปนไม่ได้คาดหวัง กลับมาอีกครั้ง